กฎความเร็วใหม่สำหรับการทดสอบการขับขี่

ตามกฎใหม่ ณ วันที่ 1 เมษายน 2565 ผู้ทดสอบจะต้องตัดสินว่าการทดสอบการขับขี่ล้มเหลวหากคุณขับรถเร็วกว่าขีดจำกัดความเร็วมากกว่า 30% หรือหากคุณขับรถช้ากว่าขีดจำกัดความเร็วมากกว่า 30% เมื่อเงื่อนไขเอื้ออำนวย ตามขีดจำกัดความเร็ว กล่าวคือ หากคุณขับด้วยความเร็ว 66 กม./ชม. หรือ 34 กม./ชม. ในบริเวณที่มีอาคารหนาแน่นกว่า (50 กม./ชม.) การทดสอบจะถือว่าไม่ผ่าน คุณต้องไม่กีดขวางการขับขี่ตามปกติของผู้ขับขี่รายอื่นด้วยการขับด้วยความเร็วต่ำเกินไปหรือเบรกกะทันหันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

กฎหมายจราจรระบุว่า:

ความเร็ว

กฎทั่วไป

มาตรา ๔๑ ความเร็วของยานพาหนะต้องปรับให้เหมาะสมกับสภาวะโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นตลอดเวลา ในการทำเช่นนั้น ผู้ขับขี่จะต้องคำนึงถึงถนน สภาพอากาศ และสภาพการมองเห็น สภาพและน้ำหนักบรรทุกของยานพาหนะ รวมถึงสภาพการจราจรด้วย ความเร็วจะต้องไม่มากกว่าผู้ขับขี่ที่ควบคุมรถได้อย่างเต็มที่ จะต้องสามารถหยุดบนส่วนของทางวิ่งหน้ารถที่ผู้ขับขี่มองเห็นและด้านหน้าสิ่งกีดขวางใดๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ เมื่อหรี่แสงจากไฟหลัก (ไฟสูง) ไปจนถึงไฟต่ำ (ไฟต่ำ) ความเร็วก่อนหรี่แสงจะต้องปรับให้เข้ากับสภาพการมองเห็นใหม่

พีซีเอส 2. ผู้ขับขี่จะต้องรักษาความเร็วต่ำให้เหมาะสมกับสภาวะ:

1) ในพื้นที่ที่มีอาคารหนาแน่นมากขึ้น

2) เมื่อทัศนวิสัยลดลงเนื่องจากแสงหรือสภาพอากาศ

3) ที่ทางแยกถนนและทางโค้งถนน

4) หน้าทางม้าลาย

5) บริเวณหน้ายอดเขาหรือที่อื่นที่ภาพรวมมีจำกัด

6) หากมีความเสี่ยงต่อแสงสะท้อน

7) เมื่อพบรถคันอื่นบนถนนแคบ

8) บนถนนเปียก ลื่น หรือมันเยิ้ม

9) เมื่อยานพาหนะเข้าใกล้รถโดยสารประจำทางหรือรถรางไฟฟ้าที่จอดรับหรือส่งผู้โดยสาร

10) เมื่อยานพาหนะเข้าใกล้เด็กบนหรือข้างถนน

11) เมื่อยานพาหนะเข้าใกล้ม้าหรือวัวบนถนน

12) ที่ทำงานบนถนนและ

13)ผ่านจุดเกิดเหตุบนท้องถนน.

พีซีเอส 3. ผู้ขับขี่จะต้องไม่กีดขวางการขับขี่ตามปกติของผู้ขับขี่รายอื่นด้วยการขับด้วยความเร็วต่ำเกินไปหรือเบรกกะทันหันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

พีซีเอส 4. ในการจราจรที่ติดขัด ผู้ขับขี่จะต้องปรับความเร็วเพื่อไม่ให้ผู้อื่นกระเด็นออกไปให้มากที่สุด

Vi bruger cookies til indsamling af statistik og til trafikmåling. Vi bruger informationen til forbedring af hjemmesiden. Ved at klikke videre, accepterer du brugen af cookies.